รองศาสตราจารย์ดรประกาศิต อานุภาพแสนยากร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เป็นประธานเปิด โครงการเสวนาวิชาการ ประวัติศาสตร์ สายมูในสังคมไทย โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาสนะ เชิดชู ผู้อำนวยการสถาบันภาษา ศิลปะและวัฒนธรรม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการ

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เพื่อรับฟังแนวทางการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาท้องถิ่นตามภารกิจของมหาวิทยาลัยราชภัฏ

“สืบเนื่องจากปัจจุบันกระแสมูเตลูได้รับการกล่าวถึงในฐานะเป็นความเชื่อในวัตถุและเครื่องรางของขลังที่ทำให้เกิดโชคลาภและประสบความสำเร็จในชีวิต โดยเริ่มจากกำไลข้อมือและตะกรุดแฟชั่นที่ศิลปินและผู้มีชื่อเสียงในสังคมนำมาใส่ประดับเพื่อความสวยงามพร้อมกับเป็นเครื่องนำโชค ซึ่งเป็นการผสมรวมระหว่างงานศิลปะกับความเชื่อเรื่องอำนาจเหนือธรรมชาติ ที่มีพลังวิเศษดลบันดาลให้ผู้สวมใส่ได้รับสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเงิน การเรียน ความรัก และเสริมดวงชะตาให้ประสบความสำเร็จและรอดพ้นจากอันตราย ทั้งนี้ ผู้ที่สวมใส่เครื่องรางของขลังที่ถูกสร้างขึ้นตามความเชื่อทางศาสนาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะต้องมีวิธีปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับการสวมใส่ เช่น การประกอบพิธีกรรมการเซ่นไหว้บวงสรวงเทพเจ้า การสักการะบูชารูปเคารพในสถานที่ทางศาสนา ปรากฎการณ์เหล่านี้คือความเชื่อที่ดำรงอยู่ในวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน พบเห็นได้ในหลายสังคม รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาของชุมชน ซึ่งปรากฏการณ์มูเตลูเกิดขึ้นจากการใช้คําเรียกบุคคลที่มีความเชื่อ ความศรัทธา และเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึง เครื่องรางของขลังต่างๆ ขณะเดียวกัน บริบทดังกล่าวยังสอดรับกับพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ 4 เผ่า ที่มีความเป็น “สายมู” อยู่มากเช่นกัน

โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ผู้อำนวยการศูนย์พาณิชย์นาวี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นักโหราศาสตร์และพิธีกรรมศาสนพิธี นายพัชรพงศ์หิรัญ จันทศิลา ประธานชมรมโหราศาสตร์แกรนด์เฮลท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพรัตน์ ฉัตรเพชรตระการ ที่ปรึกษาสมาคมพุทธบริษัทใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร และนายณภัทร แซ่เฮ้ง ที่ปรึกษานักธุรกิจ และองค์กรต่างๆ โหราจารย์นักพูด สร้างแรงบันดาลใจ ปลุกพลังด้านความสัมพันธ์ และการสื่อสาร ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมราชมรรคา อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2548 (ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม)